🌄 Livetowin: วางแผน เที่ยว ทั่วไทย แบบมีสไตล์!

ร้านอาหารมิชลินสตาร์ที่ต้องลองในการเที่ยวกรุงเทพฯ สายกินห้ามพลาด

เที่ยวกรุงเทพ
🍜 1. Jay Fai (เจ๊ไฝ) โคตรตำนานร้านริมทาง
  • 📍 ที่ตั้ง: ถ.มหาไกร ใกล้สำราญราษฎร์

  • 🌟 รางวัล: 1 ดาวมิชลิน

  • เมนูแนะนำ: ไข่เจียวปู, ผัดขี้เมาทะเล, ต้มยำกุ้ง

  • ราคา: 800–2,000 บาทต่อจาน (แพงแต่แน่นคุณภาพ!)

  • ความพิเศษ: เจ๊ไฝทำเองทุกจาน สวมแว่นตาเชื่อมเหล็ก 🔥 และยังรักษารสมือแบบเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

🥩 2. Sorn (ศรณ์) อาหารใต้ fine dining ที่สุดในไทย
  • 📍 สุขุมวิท 26

  • 🌟 รางวัล: 2 ดาวมิชลิน

  • เมนูแนะนำ: คั่วกลิ้งหมู, แกงเหลืองปลากะพง, น้ำพริกกะปิหมูฮ้อง

  • ราคา: คอร์สเริ่มต้น 3,000+ บาท (จองล่วงหน้าเป็นเดือน)

  • ความพิเศษ: วัตถุดิบจากภาคใต้แท้ 100% ใช้สมุนไพรสดจากแหล่งเฉพาะเจาะจง มีการเล่าเรื่องระหว่างเสิร์ฟ

🥢 3. Raan Jay (ร้านเจ๊) ข้าวมันไก่ระดับโลก
  • 📍 ตรงปากซอยพหลโยธิน 15

  • 🌟 Bib Gourmand แต่รสชาติระดับโลก

  • เมนูแนะนำ: ข้าวมันไก่ต้ม, ไก่ทอด, น้ำจิ้มสูตรเต้าเจี้ยวโบราณ

  • ราคา: 45–60 บาทเท่านั้น!

  • ความพิเศษ: ใช้เตาถ่านต้มไก่ และข้าวมันมันแบบไม่เลี่ยน หอมมาก 🍚

🐟 4. Sushi Masato โอมากาเสะที่จริงจังทุกคำ
  • 📍 ซอยสุขุมวิท 31

  • 🌟 1 ดาวมิชลิน

  • เมนูแนะนำ: คอร์ส Omakase เปลี่ยนตามฤดูกาลจากญี่ปุ่น

  • ราคา: 4,000–8,000 บาท/คอร์ส

  • ความพิเศษ: เชฟเป็นญี่ปุ่นแท้ ใช้วัตถุดิบจากตลาดปลาที่ญี่ปุ่นทุกวัน คิวแน่นมาก!

🥬 5. PASTE ไทยโมเดิร์นสายรสจัด
  • 📍 Gaysorn Village ชั้น 3

  • 🌟 1 ดาวมิชลิน

  • เมนูแนะนำ: น้ำพริกนรกฟัวกราส์, ลาบเป็ดแบบชาววัง, แกงกระด้างเนื้อวัวออแกนิก

  • ราคา: 2,000–3,500 บาท/คน

  • ความพิเศษ: สูตรไทยโบราณที่นำมาปรับสไตล์การจัดจานแบบ fine dining แต่อร่อยเข้มข้นแบบไทยแท้

เที่ยวกรุงเทพ
🌶️ 6. Chim by Siam Wisdom – รสไทยแท้ที่ได้ใจฝรั่ง
  • 📍 ซอยสุขุมวิท 31

  • 🌟 1 ดาวมิชลิน

  • เมนูแนะนำ: แกงมัสมั่นเนื้อวากิว, ต้มยำปลากะพง, ข้าวตังหน้าตั้ง

  • ราคา: 2,000–4,000 บาท/คน

  • ความพิเศษ: นำสูตรอาหารไทยดั้งเดิมมาทำให้ดูหรูแต่ยังคงรสชาติดั้งเดิม ชื่อเสียงดีมากในสายตานักชิมต่างชาติ 🌍

🍲 7. R-Haan สำรับไทยแห่งยุค
  • 📍 ทองหล่อ 9

  • 🌟 2 ดาวมิชลิน

  • เมนูแนะนำ: สำรับไทย 10 อย่าง (เปลี่ยนตามฤดูกาล), ขนมเบื้องญวน, แสร้งว่ากุ้ง

  • ราคา: 3,000–6,000 บาท/คอร์ส

  • ความพิเศษ: แนวคิดสำรับไทย + ความวิจิตรในจาน + การตีความใหม่โดยไม่ทิ้งราก

🥢 8. Saneh Jaan (เสน่ห์จันทน์) – เมนูไทยที่บรรจง
  • 📍 อาคารสินธรทาวเวอร์

  • 🌟 1 ดาวมิชลิน

  • เมนูแนะนำ: ข้าวแช่ชาววัง, แกงรัญจวน, ล่าเตียง

  • ราคา: 2,500 บาท/คน

  • ความพิเศษ: รสมือชาววังแท้ การตกแต่งและบรรยากาศสไตล์ไทยร่วมสมัย เหมาะกับเลี้ยงแขกต่างชาติ

🍖 9. Le Du ไทยฟิวชั่นสายกูร์เมต์
  • 📍 สีลม

  • 🌟 1 ดาวมิชลิน

  • เมนูแนะนำ: ข้าวมันไก่ซูวี, หมูป่ารมควัน, ต้มข่าไข่ออนเซ็น

  • ราคา: 2,500–4,500 บาท/คน

  • ความพิเศษ: การตีความเมนูไทยในรูปแบบ Molecular หรือสาย Chef Table อย่างล้ำสมัยสุด ๆ

🐟 10. Samrub Samrub Thai สำรับไทยโบราณ
  • 📍 เจริญกรุง

  • 🌟 1 ดาวมิชลิน

  • เมนูแนะนำ: ยำปลาดุกฟูตำข่าอ่อน, น้ำพริกมะขาม, แกงคั่วปูใบชะพลู

  • ราคา: 3,000–5,000 บาท (Chef Table Only)

  • ความพิเศษ: สำรับเปลี่ยนทุกฤดู วัตถุดิบ local และหายากมาก โดยเชฟต้น ธิติฏฐ์ ธรรมจรีย์โชติ

จุดเช็คอิน + จุดถ่ายรูปกลางวันและกลางคืนในการเที่ยวกรุงเทพ 📸🌇

เที่ยวกรุงเทพ
🌤️ กลางวัน
  • วัดอรุณราชวราราม – แสงเช้ายามเช้า+ฉากแม่น้ำเจ้าพระยา

  • สวนลุมพินี – ถ่ายกับต้นไม้เขียว + บึงกลางเมือง

  • Warehouse 30 – กำแพงอิฐ + คาเฟ่สไตล์ลอฟต์

  • ซอยนานา เยาวราช – สีสันของอาคารโบราณ + สตรีทอาร์ต

🌙 กลางคืน
  • สะพานพระราม 8 – แสงสะท้อนน้ำยามค่ำคืน

  • Mahanakhon Skywalk – วิวกรุงเทพฯ 360 องศากลางคืน

  • ICONSIAM ริมน้ำ – ไฟประดับ + ฉากเรือข้ามฟาก

  • ตลาดนัดกลางคืนจตุจักร – แสงไฟ + คนแน่น ๆ บรรยากาศสนุก

ที่พักในการเที่ยวกรุงเทพฯ ทุกระดับ 💼🛏️

💸 ราคาถูก (หลักร้อย–พันต้น):
  • The Posh Phayathai – ติด BTS พญาไท

  • Lub D Bangkok Siam – วัยรุ่นฮิต ใกล้ MBK

  • BED STATION Hostel – มีโซนนั่งชิลล์และโต๊ะทำงาน

💼 กลาง–คุ้มราคา:
  • The Quarter Ari by UHG – ย่านชิค กินง่าย นอนสบาย

  • Ibis Styles Bangkok Ratchada – MRT ใกล้ หาของกินง่าย

  • Baan Chart Hotel ข้าวสาร – กลางเมืองแต่สงบ

💎 พรีเมียม–หรูหรา:
  • Capella Bangkok – ส่วนตัว ริมน้ำ หรูที่สุดในกรุงเทพฯ

  • The Siam Hotel – บรรยากาศไทยร่วมสมัย

  • Mandarin Oriental – ตำนานของจริง สง่างามทุกมุม

ห้างสรรพสินค้า + คอมมูนิตี้มอลล์ 🛍️

🏬 ห้างใหญ่ใจกลางเมือง:
  • Siam Paragon – แบรนด์หรู โรงหนัง IMAX 4DX

  • ICONSIAM – ใหญ่สุด ริมแม่น้ำ วิวดี อาหารเยอะ

  • CentralWorld – ฮิตตลอดกาล ทุกวัย ทุกสไตล์

🛒 คอมมูนิตี้มอลล์:
  • The Commons ทองหล่อ – ฮิปสเตอร์ x อาหารโฮมเมด

  • Habito Mall อ่อนนุช – คนไม่เยอะ เหมาะทำงาน+นั่งชิลล์

  • One Nimman Bangkok (โซนลับสุขุมวิท) – สถาปัตย์ยุโรปสุดเท่

เที่ยวกรุงเทพ
คาเฟ่ลับสวยๆ ในการเที่ยวกรุงเทพฯ
  • The Blooming Gallery (เอราวัณ แบงค็อก) – คาเฟ่เรือนดอกไม้สไตล์ยุโรป ราวกับอยู่ในสวนลับ

  • Mocking Tales (ทองหล่อ) – คาเฟ่แฟนตาซีธีมเวทมนตร์ มีของหวานที่เสิร์ฟพร้อมควันและไฟ

  • Flat+White Cafe (อารีย์) – มินิมอล ลอฟต์ ขาวสะอาดเหมาะถ่ายคอนเทนต์

  • Sretsis Parlour (เซ็นทรัล เอ็มบาสซี) – คาเฟ่สีชมพูลายดอกล้ำยุคสำหรับสายหวานตัวจริง


🍸 บาร์ดาดฟ้า วิวสวยที่สุดในการเที่ยวกรุงเทพฯ
  • Vertigo & Moon Bar (Banyan Tree) – วิวเมือง 360 องศา เมนูค็อกเทลคลาสสิก

  • Octave Rooftop Lounge (Marriott สุขุมวิท) – บรรยากาศโมเดิร์น ชั้นบนสุดของโรงแรม

  • Above Riva (Riva Arun) – วิวตรงวัดอรุณ เห็นพระปรางค์ชัดเจนกลางคืน

  • Tichuca Rooftop Bar – ต้นไม้เรืองแสงกลางฟ้า จุดถ่ายรูปยอดนิยมของวัยรุ่น

 
🎨 แกลเลอรีลับและพื้นที่อาร์ตน่าสำรวจ
  • Art Gallery at Warehouse 30 – โกดังเก่าแปลงร่างเป็นแกลเลอรีแนวร่วมสมัย

  • CHO WHY (เยาวราช) – แกลเลอรีในตึกเก่า มีทั้งนิทรรศการและ rooftop เล็กๆ

  • Kinjai Contemporary (อารีย์สัมพันธ์) – ศิลปะร่วมสมัยของศิลปินหน้าใหม่

  • POWWOWWOW BKK – พื้นที่ศิลปะในตลาดนัดกลางคืน มีอีเวนต์เวิร์กช็อปสม่ำเสมอ

🛍️ ตลาดของสะสม ของแฮนด์เมด + อินดี้คราฟต์
  • ตลาดนัดรถไฟรัชดา/ศรีนครินทร์ – ของวินเทจ ของสะสม ของตกแต่งบ้านยุคเก่า

  • Made By Legacy Market – ตลาดคราฟต์นานาชาติ จัดเป็นรอบ ๆ ปี (ต้องเช็กวัน)

  • สวนจตุจักร โซน 26/27/28 – ของแต่งบ้าน ของวินเทจ และงานแฮนด์เมดเจ๋งๆ

  • Lhong 1919 Craft Zone – โซนคราฟต์จีนผสมไทย ริมน้ำเจ้าพระยา

ทำไมต้องเที่ยวกรุงเทพฯ? 🧐

  • มีทั้งวัดวา ห้าง คาเฟ่ บาร์ ตลาด และธรรมชาติในเมืองเดียว

  • อาหารอร่อยตั้งแต่ริมทางจนถึงมิชลินสตาร์ 🍜✨

  • เดินทางง่ายด้วย BTS, MRT, เรือ, รถ EV

  • เที่ยวได้ทุกงบ ตั้งแต่โฮสเทลยันโรงแรมหรู 🏨

  • จุดถ่ายรูปเยอะทั้งกลางวัน-กลางคืน 📸

  • มีพลัง ความครีเอทีฟ และชีวิตที่ไม่เคยหยุดนิ่ง 🔥

“กรุงเทพฯ คือเมืองที่ไม่ใช่แค่ ‘ผ่านไป’ แต่ควร ‘หยุดอยู่’ เพื่อซึมซับให้ลึก”